สบู่ก้อนแรกของโลก

สบู่ก้อนแรกของโลก

สบู่ก้อนแรกของโลกทำมาจาก 

“ไขมันปลาโลมา” จริงหรือ? แล้วสบู่ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันล่ะ ทำมาจากอะไรกันแน่? แล้วมันจะช่วยทำความสะอาดให้เราได้อย่างไร?

ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 800 กว่าปีก่อน ในสมัย พระเจ้าหลุยส์ ที่ 6 แห่ง ราชอาณาจักรฟรังโก้ ชาวฝรั่งเศสนาม ‘มาโก แวนโกะ’ ได้คิดค้นสบู่ก้อนแรกขึ้น ซึ่งทำมาจาก “ไขมันของปลาโลมา” แต่เพราะกลิ่นที่เหม็นคาวของมันนั่นเอง ทำให้สบู่ในยุคนั้นไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก

แต่ใครจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว สบู่ถูกค้นพบโดยความบังเอิญตั้งแต่สมัยที่ยังมีการบูชายัญสัตว์ต่างหากเรื่องราวเกิดขึ้นในเมือง Sopo Hill ค่ะ ที่นั่นมีการบูชายัญสัตว์ซึ่งแท่นบูชายัญก็ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ เมื่อเหล่าแพะและวัวถูกนำมาทำพิธีโดยการเผาไฟและทิ้งไว้นานวันเข้า ไขมันจากการถูกเผาก็ไหลไปรวมตัวกันกับขี้เถ้าและน้ำฝน จนเกิดก้อนขาวๆ ติดอยู่ที่ท่าน้ำ

ปรากฏว่าชาวบ้านแถวนั้นเกิดนำก้อนสีขาวขุ่นมาซักผ้า ก็พบว่าผ้าสะอาดกว่าซักด้วยน้ำเปล่า และเมื่อสืบทราบก็พบว่าสิ่งที่พวกเขาได้นำมาซักนั้นคือไขมันของสัตว์ที่ผสมรวมกับขี้เถ้า พวกเขาจึงเรียกมันว่า “Soap” ตามชื่อสถานที่กำเนิดนั่นเองค่ะ

กระทั่งในปี  ค.ศ. 1879 นั่นเอง สบู่ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น  เพราะทางการแพทย์ได้วิเคราะห์และพัฒนาทำให้ได้ข้อมูลว่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังและเสื้อผ้าเป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคได้  ผู้คนจึงตื่นตัวในการใช้สบู่อาบน้ำกันมากขึ้นค่ะ

ส่วนความน่าทึ่งก็อยู่ตรงที่การกำเนิดของสบู่นั้น มาจากการรวมตัวกันระหว่าง ไขมัน (Ester) และด่างจากขี้เถ้า (Base) ซึ่งจะทำให้มีส่วนที่เรียกว่า “กลีเซอรีน” ออกมาด้วย ซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวได้ดีทีเดียวล่ะค่ะ

หมายความว่านอกจากที่สบู่จะช่วยทำความสะอาดชะล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้แล้ว ยังมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวอีกด้วย โดยคุณสมบัติของสบู่จะแปรตามคุณสมบัติของไขมันที่มาทำสบู่ค่ะ

Leave a Comment

Your email address will not be published.